ท่ามกลางลักษณะสังคมที่มีความเป็นเมืองมากขึ้น ทำให้รูปแบบการออกกำลังกายในฟิตเนสนั้น เริ่มเข้ามามีบทบาทต่อชีวิตประจำวันของคนทุกเพศและทุกวัยมากยิ่งขึ้น ข้อมูลจาก คุณพรศรี พริ้งสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท วี ฟิตเนส โซไซตี้ เปิดเผยว่า ตลาดฟิตเนสไทย มีมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 9,000 ล้านบาทในปี 2559 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังถือว่าเป็น “มหาสมุทรสีแดง” หรือที่เรียกว่า “Red Ocean” ที่เป็นตลาดแข่งขันที่รุนแรงมาก วันนี้เราจึงอยากนำเสนอวิธีการทำธุรกิจฟิตเนสให้ติดตลาด เพื่อให้อยู่รอดในมหาสมุทรแห่งนี้ได้
1. ทำเล
ถือว่าเป็นหัวใจหลักของธุรกิจนี้ เนื่องจากเป็นบริการที่ต้องบริการให้คนในชุมชนที่อยู่ใกล้เคียง ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องตั้งอยู่ในบริเวณที่ใกล้และสะดวกต่อกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจ มีที่จอดรถหรือมีบริการรถสาธารณะ จะยิ่งทำให้เป็นตัวเลือกในอันดับต้นๆของกลุ่มเป้าหมายแน่นอน
2. บรรยากาศในยิม
บรรยากาศณที่นี้ เริ่มจากการตกแต่ง ที่ทันสมัย สะอาด เรียบร้อย มีมุมพักผ่อนที่เป็นส่วนตัว อุปกรณ์ภายในและเครื่องออกกำลังกายที่ทันสมัย ตลอดจนการต้อนรับและการให้บริการลูกค้า นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการไม่เน้นเพิ่มจำนวนลูกค้าสมาชิกจนเกิดความแออัดจนเกินไป
3. เพิ่มคลาส
เพื่อความน่าไม่เบื่อ และความแอดวานซ์ให้กับสมาชิก เนื่องจากการออกกำลังกายในรูปแบบเดิมๆ นอกจากจะไม่ได้ผลลัพธ์แล้วยังทำให้เกิดความเบื่อหน่ายอีกด้วย
4. เพิ่มลูกเล่นบริการด้านสุขภาพต่างๆ
ตัวอย่างเช่น มีบริการที่ปรึกษาทางกายภาพและโภชนาการฟรี หรือ ประเมิณความเสี่ยงในการออกกำลังกาย ตลอดจนการวางเป้าหมายไปยังกลุ่มพิเศษ อย่างเช่นกลุ่มลูกค้าผู้สูงอายุ เนื่องจากมีแนวโน้มการปรับตัวของผู้สูงอายุรุ่นใหม่ (ซึ่งคือบุคคลที่อายุอยู่ในช่วง 40-60 ปีในปัจจุบันนี้) ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยการหันมาออกกำลังกายมากขึ้น หากทางยิมมีบริการด้านสุขภาพให้กับผู้สูงอายุกลุ่มนี้ รับรองว่าสามารถพิชิตใจลูกค้าและนำคู่แข่งได้อย่างแน่นอน
5. โปรโมชั่น หรือบัตรสมาชิกราคาพิเศษ
จัดว่าเป็นสิ่งที่อยู่คู่กันอยู่แล้ว สำหรับธุรกิจไม่ว่าจะมาจากธุรกิจใดก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจในกลุ่มที่มีการแข่งขันสูงอย่างเช่นกลุ่มธุรกิจฟิตเนสนี้ หากปราศจากการทำโปรโมชั่นที่ตรงใจลูกค้า รับรองว่าต้องกลายเป็นผู้อ่อนแอ และผู้อ่อนแอย่อมแพ้ไปจากวงการ
อย่างไรก็ตามยังนับว่าเป็นเรื่องที่ธุรกิจนี้ยังมีโอกาสในการเติบโต เนื่องจากภาพรวมการออกกำลังกายของคนไทยที่หันมาออกกำลังกาย มีเพียงแค่ 0.6% เท่านั้น หากผู้ประกอบการมีการให้ความรู้ที่ถูกต้อง ให้คนหันมาออกกำลังกายที่ยิม ก็นับว่าเป็นการเพิ่มตลาดที่ดีเลยทีเดียว